
Book Value หรือ ค่าทางบัญชีหมายถึง ราคาทรัพย์สินสุทธิของบริษัทน (Net Asset Value) ตามงบดุล สามารถคำนวณได้จากนำทรัพย์สินรวมลบด้วยหนี้รวม แล้วก็เหลือเป็นส่วนของผู้ถือหุ้น
ดังเช่นว่า บริษัท ABC มีมูลค่าทรัพย์สินรวมพอๆกับ 100 ล้านบาท รวมทั้งราคาหนี้รวมพอๆกับ 80 ล้านบาท โดยเหตุนี้ ราคาทางบัญชีของบริษัทจะพอๆกับ 20 ล้านบาท หรืออีกความหมายหนึ่งถ้าเกิดบริษัทขายทรัพย์สิน lyn68 รวมทั้งใช้หนี้ใช้สินสินทั้งผอง ส่วนของผู้ถือหุ้นหรือค่าทรัพย์สินสุทธิทางบัญชีของบริษัทจะพอๆกับ 20 ล้านบาท
ข้อคิดเห็นเพิ่มอีก โดยคุณปริพรรห์ ปริยอุสูดดมทรัพย์สมบัติ CFP® นักกำหนดแผนการเงิน ชมรมนักกำหนดแผนการเงินไทย
1. อย่าละเลยหุ้น P/BV Ratio สูงๆด้วยเหตุว่าการบันทึกค่าตามบัญชีนั้น สินทรัพย์บางสิ่ง ไม่อาจจะตีค่าเป็นตัวเลขแล้วเอาไปใส่ไว้ในงบการเงินได้ ทำให้เงินทอง lyn68 ใดก็ตามที่มีลักษณะอย่างนี้ จะไม่มีการบันทึกลงในงบการเงิน ดังเช่น ความน่าไว้วางใจของยี่ห้อสินค้า แบรนด์ของบริษัท ความเก่งกล้าของประธาน บุคลากร ซึ่งถ้าหากบริษัทไหนมีสินทรัพย์ชนิดนี้เยอะแยะ ค่าตามบัญชีก็จะต่ำ รวมทั้งอาจก่อให้ P/BV Ratio สูง ด้วยเหตุนั้น ถ้าหากนักลงทุนเลือกหุ้นโดยตรึกตรองเพียงแค่มี P/BV Ratio ต่ำ แล้วก็ละเลยหุ้นที่มี P/BV Ratio สูง ไม่แน่ว่าบางทีอาจกำลังละเลยจังหวะดีสำหรับเพื่อการลงทุนก็ได้
2. อย่าเลือกแต่ว่าหุ้น P/BV Ratio ต่ำๆเป็นปกติของนักลงทุนที่เมื่อมองเห็นของที่มี “ค่าต่ำๆ” แล้ววิ่งเข้าพบ แต่ว่าบางกรณี P/BV Ratio ต่ำๆบางครั้งก็อาจจะต่ำโดยธรรมชาติของอุตสาหกรรมที่ชอบมิได้จำหน่ายกันที่ P/BV Ratio สูงๆก็ได้ หรือหุ้นตัวนั้นบางทีอาจไม่ดีจริงจนกระทั่งขั้นที่นักลงทุนให้ค่าน้อยมาก ทำให้ P/BV Ratio ต่ำมากมาย แม้กระนั้นการที่นักลงทุนจะทราบว่า P/BV Ratio ที่จะต้องเป็นมีค่าเท่าใดนั้น ก็จำต้องมองอัตราส่วนด้านการเงินอื่นๆรวมทั้งพินิจพิจารณาข้อมูลด้านอื่นร่วมด้วย
3. หุ้นขึ้นลงด้วยผลกำไรไม่ใช่ค่าตามบัญชี P/BV Ratio ค่าตามบัญชี P/BV Ratio เหมาะสมแก่การใช้พินิจพิจารณาความถูกความแพงพื้นฐานเพียงแค่นั้น มิได้กล่าวว่าน่าซื้อ น่าขาย ดีไหมดี เนื่องจากว่า P/BV Ratio พิจารณาถึงราคาหุ้นตามบัญชีเป็นหลัก ซึ่งในความจริง เวลาหุ้นขึ้นหรือลงมิได้ขึ้นลงตามราคาตามบัญชี แต่ว่าขึ้นลงด้วยผลกำไร หากบริษัททำธุรกิจเก่ง มีผลกำไรมากขึ้น หุ้นก็จะต้องขึ้นแน่ๆ ถึงแม้ราคาหุ้นตามบัญชีจะต่ำลงก็ตาม